“ทีมชาติไทย U23” ประเดิมสวมชุดขาว เปิดหัวชน ติมอร์ เลสเต ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน U23
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุม ภายใน เกโลรา บุง การ์โน สเตเดียม สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน หรือ เอเอฟเอฟ จัดประชุมผู้จัดการทีมก่อนการแข่งขัน ฟุตบอล ASEAN U-23 Mandiri Cup 2025
การประชุมในครั้งนี้พูดถึงกฏ ระเบียบของ การแข่งขันที่ทุกทีมจะต้องปฏิบัติตาม โดยมีตัวแทนของทั้ง 3 ชาติในกลุ่มซี พร้อมด้วยฝ่ายจัดการแข่งขัน และฝ่ายอื่นๆ เข้าร่วมประชุม โดยสรุปการประชุม ดังนี้
– ทีมชาติไทย จะสวมชุดสีขาว ผู้รักษาประตู สีเขียว ในเกมที่จะพบกับ ติมอร์ เลสเต ในเกมแรกของรอบแบ่งกลุ่ม
– ทีมชาติไทย จะสวมชุดสีน้ำเงิน ผู้รักษาประตู สีเหลือง ในเกมที่จะพบกับ เมียนมา ในเกมที่สองของรอบแบ่งกลุ่ม
– การเปลี่ยนตัวจะสามารถทำได้ทั้งหมด 5 คน และเปลี่ยนได้ 3 ครั้งไม่รวมช่วงพักครึ่ง– การเปลี่ยนตัว ในกรณีพิเศษ (Concussion) ในกรณีที่ผู้เล่นมีอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ โดยที่อีกฝ่ายก็จะได้สิทธิ์เพิ่มเติม
– การแข่งขันรายการนี้ ไม่มีการนำเทคโนโลยี VAR
– ในกรณีที่ผู้เล่นได้รับใบแดง จะถูกแบนจากการแข่งขันนัดต่อไป ทันที หรือหากได้รับใบเหลืองครบ 2 ใบจะถูกแบนในเกมนัดต่อไปทันที
– ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม หากมีสองทีมที่มีแต้มเท่ากัน จะดูที่ เฮด ทู เฮด ก่อนประตูได้เสีย
– การหาอันดับ 2 ที่ดีที่สุด จะวัดจากแต้ม ตามด้วยประตูได้เสีย โดยในกลุ่มเอ ที่มี 4 ทีมจะต้องตัดผลที่เจอกับทีมอันดับสุดท้าย
– การไขว้สาย ในรอบรองชนะเลิศ กรณีที่ทีมรองแชมป์กลุ่ม มาจากกลุ่ม บี หรือ ซี จะต้องพบกับ แชมป์จากกลุ่มเอ และในกรณีที่ รองแชมป์กลุ่มมาจาก กลุ่มเอ จะต้องพบกับ แชมป์จากกลุ่มบี
สำหรับโปรแกรมแข่งของ ทีมชาติไทย U23 รอบแบ่งกลุ่ม สาย ซี ดังนี้
วันที่ 19 ก.ค. 68 พบ ติมอร์-เลสเต เวลา 20.00 น. ณ สนามแพทริออต สเตเดียม ประเทศอินโดนีเซีย
วันที่ 22 ก.ค. 68 พบ เมียนมา เวลา 20.00 น. ณ สนามแพทริออต สเตเดียม ประเทศอินโดนีเซีย
ถ่ายทอดสดทาง : Thairath TV, BG Sports, AIS Play และ True Visions Now
โดยการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มจะนำทีมแชมป์กลุ่มทั้งสามกลุ่ม และอันดับ 2 ที่ผลงานดีที่สุด 1 จาก 3 กลุ่มผ่านเข้ารองต่อไป โดย รอบรองชนะเลิศ และ รอบชิงชนะเลิศ จะแข่งขันกันในวันที่ 25 และ 29 กรกฎาคม ณ เกโลรา บุง การ์โน สเตเดียม